3/11/2558
วันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ยามบ่ายหลังชั้นเรียนประวัติศาสตร์ดนตรีตะวันตก
พวกเราชาวมนุษย์กับการสร้างสรรค์ได้ออกเดินทางร่วมกันไปยังมิวเซียมสยาม
เพื่อไปชม "นิทรรศการเสียงอาเซียน" ซึ่งเป็น นิทรรศการจัดวางเสียง
เป็นการเล่นคำระหว่าง Asean กับ Ear ในชื่องาน AS((EAR))N เก๋ๆ
นำทีมโดย อาจารย์ Jean-David Caillouët, อ.ดร.อโณทัย นิติพน และ อาจารย์อานันท์ นาคคง ผู้ช่ำชองในดนตรีชาติพันธุ์ (Ethnomusicology) และเหล่าคณะที่มีไอเดียอันบรรเจิดสุดล้ำที่สุดแห่งยุคสมัยเท่าที่ฉันเกิดมาได้เคยพบเคยเจอ
กล่าวได้ว่า นี่เป็นการชมนิทรรศการเสียงครั้งแรกของฉัน...
(อันที่จริงแล้วก็เพิ่งได้รู้จากคำว่า นิทรรศการ สามารถจัดแสดงเป็นสื่ออย่างอื่นนอกจากวัตถุได้ด้วย)
ในงานนั้นแบ่งออกเป็นสองห้อง ห้องสว่างกับห้องมืด (นี่ฉันจัดแบ่งเอง)
โดยห้องที่เราเดินเข้าไปเจอห้องแรกนั้นจะเป็นห้องสว่าง ซึ่งแบ่งโซนห้องให้
คดเคี้ยวให้เราเดินตามคล้ายเขาวงกต และจัดวางเรื่องราวของสื่อในรูปแบบของเสียง, ภาพ, ภาพและเสียง, สิ่งของต่างๆที่สร้างเสียง และ Quotations เกี่ยวกับเสียงทั้งหลายที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกัน แต่นำมา "Curate" หรือจัดวางในงานนิทรรศการให้เชื่อมโยง และร้อยเรียงลำดับให้เป็นเรื่องเดียวกัน
ก่อนจะเข้าประตูไปยังห้องมืด ก็มี 2 Quotes บทผนังคนละระนาบ เป็น text ที่นำมาจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล และคัมภีร์อัลกุรอ่านจากสองศาสนา มาวัดวางไว้ให้อยู่ในบริบทของงานนี้ เพื่อใช้ให้เราปรับอารมณ์ และเตรียมใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปยังห้องถัดไป...
.
.
.
.
.
.
"A bird doesn't sing because it has an answer,
it sings because it has a song."
-- Chinese Proverb
นี่เป็น Quote ในห้องแรก ที่ฉันอ่านแล้วไม่เข้าใจในทันที (จนถึงตอนนี้ซึ่งผ่านมากว่าเดือนนึงแล้วก็ยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ จึงเกิดเป็นไอเดียว่า เออ.. ก็เขียน
เรื่องนี้ไปเลยสิ จะได้ค้นหาความหมายของตัวคำกล่าวนี้ไปด้วยเลย)
ทางออกทางแรกที่นึกออก ฉันลองอัพสเตตัสในเฟสบุ้คเชื้อเชิญเพื่อนๆ
ให้มาตีความคำกล่าวนี้ แล้วมาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน...
แต่อย่างว่าล่ะ พอมาเรื่องมีสาระหนักๆ ทีไร (ยิ่งเป็นคำคมๆ แต่งงๆ) แบบนี้แล้ว แน่นอน! มีแต่คน like เต็มเลยค่ะ แต่ไม่มีคนตอบ Orz' //ยืนนิ่งไว้อาลัย 10 วิ...
เอาล่ะ เราอย่าไปฝากความหวังไว้ที่หน้าเฟสบุ้คเลย งั้นลองถามอากู๋ดีกว่า
เชื่อว่าคงต้องมีคนสงสัยเหมือนเราบ้างล่ะนะ ~~~
ฉันชอบที่จะอ่านคำถามปลายเปิดที่ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุด หรือว่ามีถูกหรือผิด. ชอบที่จะได้เห็นว่าแต่ละคนนั้นมีวิธีคิดอย่างไร และความหลากหลายของการตีความเหล่านั้น ซึ่งมันช่วยเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้นมาก ยิ่งเป็นตอนหาคำตอบตอนที่เรายังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดในใจเป็นตัวชี้นำความคิดแล้ว ก็ยิ่งทำให้เรามีความเป็นกลางในการค้นหาคำตอบไปเรื่อยๆ เหมือนแก้วน้ำใบเปล่าที่ยังไม่มีคำตอบหรือน้ำสักหยดอยู่ในนั้นเลย... บางทีการไม่รู้อะไรสักเรื่องนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ :)
ฉันลองค้นเข้าไปใน Search Engine ยอดนิยมอย่าง Google แล้ว
พบว่ามีหลายคนมาตั้งกระทู้ถามในเว็บไซต์ Yahoo! อยู่หลายกระทู้
และมีผู้มาตอบในหัวข้อ How would you interpret this quote?
มากมายเลยทีเดียว ตั้งแต่...
"Most people like to ask silly or stupid questions,
not to hear the annswer, but to hear themselves talk." -- TheHangedFrog
● เอ่อะ.. นี่หลอกด่ากูอยู่ป่าววะ
.
.
" ...I think it means that everyone has a voice that needs to be heard and you should vocalize it besides keeping quite,
whether right or wrong it is your belief, and you should stay true to your beliefs and yourself, and *Sing Your Song*. " -- Jools
● นี่ก็มาแนวปลุกใจมากเลยจ้าาาา
.
.
"Your on your own!" -- dianahb2005
● อืม.. สั้น กระชับ ได้ใจความ
.
.
"The bird quote means that inside of each person there is something to be said,
not just quiet waiting to respond to inquiry." -- wawawebis
● อาฮะ
.
.
"A bird is gifted by God to sing a song, that's a trade mark of a bird. Its song can entertain or brightens our day.
When a birds used to sing kinda sounds that life is beautiful and it makes our day right." -- che
● คำตอบอิงทางศาสนาก็มา.. ใช้ภาษาบรรยายได้เห็นภาพมากเลยค่า โลกสดใสขึ้นมาทันทีเมื่ออ่านจบ
.
.
"I like this quote very much, and I have thought a lot about what it means to me.
I like to think it means that a bird's song comes not from its head, but from its heart." -- Marcel
● โอ้วววว~ สวยค่าาาา *^* //มีคนคิดไม่ตกเหมือนเราด้วยแฮะ
.
.
"This means that the bird isn't singing because he's trying to prove his point or show that he's right.
He is simply singing because it is in his nature to sing and that is one of his purposes in life.
In other words, he's not trying to prove anything, just doing his job :) " -- i_wish_on_eleven11
.
"The bird sings because it can. There is no reasoning process involved,
it just can sing and so it does." -- hickcrazy1
● สองคนนี้มาแนวคล้ายๆ กันเนาะ
.
.
"Be less mindful of the search for answers and simply by singing our sing, we will find our way,
simply by being in the present moment. If you are singing, you are in the present moment.
If you are searching for answers, you are searching the past or looking to the future." -- Rebecca
● นี่คือการตระหนักถึงคุณค่าแห่งปัจจุบันขณะสินะ
.
.
"It means that the bird doesn't wait around to be asked a question. It shares what it has freely.
For a human this would be knowledge or opinions." -- The Godfather
● อืม....
.
.
สุดท้าย
"Its a happy bird!" -- Morgan H
● เออเนาะ... แค่คำตอบง่ายๆ บางทีคนเราก็คิดมากไป
โดยทั้งหมดจากความหลากหลายนี้ มีสิ่งที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกัน คือคำว่า "Song" ของ bird
หรือ บทเพลงของนก ในทางเดียวกันนั้น represent ถึง สิ่งที่มาจากภายในตัวเรา (หรือนก)
แต่การตีความที่ออกจะถูกใจฉันมากที่สุดนั้น คงเป็นคำตอบนี้ . . .
"Some people may not be there to give you a solution when you have problems,
but they do what they do best to help you." -- zowyx
ตรงกับสถานการณ์ตอนนี้พอดีด้วยเลย... เพราะทุกๆ ครั้ง (หากเราสังเกต) จะพบว่า ทุกปัญหาที่เราพบเจอ
เมื่อได้นำไปปรึกษากับใคร เราก็จะได้เพียงคำแนะนำที่อิงตามประสบการณ์ ความคิด และความเชื่อจากคนเหล่านั้น
หลายคนอาจบอกว่า "เธอควรทำอย่างนั้นสิ, ทำอย่างนี้ก็ดีนะ" ถึงมันจะเป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดจากตัวเขาแล้วก็ตาม
แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะเปิดรับฟังคำตอบจากคนเหล่านั้นมากเพียงใด การที่เราจะเลือกรับอะไรมา ก็ต้องนำสิ่งทั้งหลายนั้นมาพิจารณาอีกที
และสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับเรา ที่จะเลือกรับแนวคิดใดที่เหมาะสมและถูกจริตกับตัวเราเองมาใช้
เพราะแต่ละคนที่ให้คำตอบ ต่างอิงมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขากันทั้งสิ้น
ซึ่งสิ่งนั้นมันอาจจะใช้ได้ดีกับเขา เพียงแต่เขาคนนั้นไม่ใช่เรา
ดังนั้น การจะรับฟังใคร ต้องฟังเพื่อนำมาไตร่ตรองอย่างมีสติ ไม่ปล่อยใจให้ลื่นไหลคล้อยตามไปกับถ้อยคำของคน
เนื่องด้วยสุดท้ายแล้ว ไม่มีใครที่จะรู้คำตอบของคุณได้นอกจากตัวของคุณเอง
.
เราอาจเลือกที่จะนำ material เพียงบางส่วนจากคำตอบของคนนู้น.. มาผสมกับ motif ของคนนี้...
แล้วนำมาประกอบกับ musical form ของเรา เพื่อให้ได้เป็นบทเพลงในแบบฉบับของเราเอง
.
เพราะบทเพลงของ เรา กับ บทเพลงของ คนอื่น เหล่านั้น เป็นคนละบทเพลงกัน.
Every birds have a song of their own!
--------------
มีเป็นบทความมาเลยก็มีนะ นี่งุย >>คลิกๆ<<
P.S. และนี่คือคำตอบของ อ.ดร.อโณทัย นิติพน
" -บางครั้งการช่างคิด ก็อาจเป็นกับดักของความคิด-
ที่น่าสนใจ คือตอบใครแต่ละครั้ง ก็ไม่เคยเหมือนกัน สงสัยเราจะเป็นนก"
Resourse: