top of page

Innovation and the Future of Literature : หนังสือและวรรณกรรมในโลกอนาคต


หลังจากเขียนโพสต์ที่แล้วก็ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรใหม่ๆ จนมาเจอบทความหลายชิ้นที่น่าสนใจ

อย่างแรกเลยกล่าวถึง Augmented Reality ซึ่งก็อธิบายได้ดีตามภาพเลย ในภาพสิ่งที่อยู่บนมือเข้าใจว่าเป็นดิกที่สแกนคำในหนังสือแล้วพุ่งแสงออกมาเป็นคำแปลให้เลย (หากใครนึกไอเดียของ augmented reality ไม่ออกให้นึกถึงเกมจับโปเกม่อนก็จะเป็นไอเดียเดียวกัน) ตอนนี้กำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนานวัตกรรมอยู่ หากใครสนใจเรื่องนี้ก็ลองคลิกอ่านต่อที่รูปเลย (แต่ในบทความไม่ได้อธิบายนวัตกรรมที่เห็นในรูปนะ ไม่ค่อยมี content เท่าไหร่ จะพูดรวมๆ ถึงคอน concept มากกว่า)

รูปแถบข้างบนนี้ก็เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่พัฒนาตัว eBook ให้มีความคล้ายหนังสือเล่มมากขึ้น

แต่สิ่งที่ยังไงอีบุ้คก็ทำไม่ได้ก็เช่น ให้ประสบการณ์ในเรื่องมิติความหนา และความรู้สึกเหมือนจริง

แต่สุดท้าย เราว่าจริงๆ ในที่สุดแล้วเราควรก้าวข้ามประเด็นเรื่องหนังสือเล่ม กับหนังสือดิจิตอลไปเถอะ มันคงอยู่คู่กันไปเรื่อยๆ แหละตราบเท่าที่โลกยังพัฒนาไปข้างหน้า มันขึ้นอยู่กับสื่อแบบไหนเหมาะสมกับจริตคนยังไงมากกว่า ทุกวันนี้คนเมืองอาจอยู่หอ อยู่คอนโดกันมากขึ้น มีพื้นที่เก็บหนังสือเล่มน้อยลง อีบุ๊กก็อาจตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเหล่านั้น ยังไงประสบการณ์จากทั้งสองแบบมันมีข้อดีข้อเสียต่างกันอยู่แล้ว แต่ยังไงสุดท้ายมันก็ให้ 'แก่น' เดียวกันคือ "การอ่าน" ซึ่งเราว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าสิ่งไหนจะมาแทนที่สิ่งไหนโดยสมบูรณ์ หรืออะไรจะหายไปอะไรขนาดนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องกังวลในสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นต่อเรื่องนี้หรือเรื่องไหน เราควรกังวลกับตัวเราเองมากกว่า ว่าเราจะไม่สามารถปรับตัวให้เท่าทันกับยุคสมัย สิ่งต่างๆ มันแค่เปลี่ยนไปตามโลกที่เปลี่ยนแปลง เป็นความเป็นไปของธรรมชาติ แล้วสุดท้ายกาลเวลาจะเป็นตัวคัดกรองให้เราเองว่าอะไรจำเป็นหรือไม่จำเป็น สิ่งที่สำคัญจะยังคงอยู่ตลอดไป แม้จะไม่อยู่ในรูปแบบเดิมก็ตาม

เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เข้ามามันอาจไม่ได้พลิกหรือเปลี่ยนรูปแบบการอ่านของเราไปโดยสิ้นเชิง แต่ไหนๆ มันก็แทนประสบการณ์เดิมไม่ได้อยู่แล้ว ทำไมเราถึงไม่ใช้มันเข้ามาเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ทางการอ่านให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้นไปล่ะ ดีกว่าจะคิดว่ามันจะมาเพื่อแทนที่ เราว่าไอเดียของ augmented reality ตอบโจทย์ได้ตรงประเด็นดีเลยล่ะ มันเป็นการผสานประสบการณ์จากทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน แฮ้ปปี้ วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย จบชริ้งงง ~~


bottom of page